วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

วง T-ara

วง kpop ประเทศเกาหลีที่ดังทั่วโลก

วง  T-ara (ทีอารา)

สวัสดีค่ะ เรามาทำความรู้จักกับวง T-ara ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ความสามารถที่หลากหลาย ไปชมกันเลย


ที-อารา (เกาหลี티아라อักษรโรมันT-ara) เป็นศิลปินเกิร์ลกรุปสัญชาติเกาหลีใต้ ภายใต้สังกัดค่ายเอ็มบีเคเอนเตอร์เทนเมนต์ (เปลี่ยนค่ายเก่าคือ ซีซีเอ็ม (CCM)) ในปี ค.ศ. 2009 ก่อนเปิดตัวที-อาราได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในฐานะวงน้องใหม่ ซึ่งได้ฝึกซ้อมเตรียมงานมาเป็นเวลานานกว่า 3 ปี[4] ซึ่ง ณ เวลานั้น ที-อารา ประกอบด้วยสมาชิก 5 คน และในเดือนเมษายน พ.ศ. 2552 ที-อาราได้ปล่อยเพลง "กู๊ดเพอร์สัน" (Good Person) ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครเรื่อง ซินเดอเรลลาแมน (Cinderella Man) ของช่องเอ็มบีซี (MBC) ต่อมาในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2009 ได้มีการปรับเปลี่ยนสมาชิกภายในวงครั้งใหญ่ ซึ่งสมาชิก จีว็อน และ จีแอ ได้ถอนตัวออกไป ในเดือนถัดมา ที-อาราได้เปิดตัวใหม่อีกครั้งพร้อมสมาชิก 6 คน รวมถึงได้ย้ายค่ายไปสังกัด MBK.ent ในปัจจุบันและได้ปล่อยเพลงเปิดตัวซิงเกิล "Lies" และเปิดตัวสมาชิกคนที่ 7 ในวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 คือ "ฮวา-ย็อง" ก่อนที่จะประกาศเพิ่มสมาชิกวงอีก 2 คน ในช่วงมีนาคม พ.ศ. 2555 คือ อารึมและดานี โดยตั้งแต่ก่อนเปิดตัวจนถึงปัจจุบัน ที-อารามีการสับเปลี่ยนกันเป็นหัวหน้าวงมาโดยตลอด ซึ่งปัจจุบัน (กรกฎาคม พ.ศ. 2556) ตำแหน่งหัวหน้าวงคือ "คิวรี"
ที-อารา นั้นหมายถึงจุดมุ่งหมายในการเป็นราชินีแห่งวงการเพลง ที่สวมใส่มงกุฎอันสวยงาม

เนื้อหา

ประวัติ[แก้]

ก่อนเปิดตัว[แก้]

เดิมที ที-อาราประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 5 คน ได้แก่ ฮโย-มิน, จี-แอ, จี-ว็อน, จี-ย็อน และอึน-จ็อง ซึ่งได้ฝึกซ้อมเตรียมงานมาเป็นเวลานานกว่า 3 ปี และได้ปล่อยเพลงแรก "Good Person" ซึ่งเป็นเพลงประกอบละครเรื่อง Cinderella Man ของช่องเอ็มบีซี (MBC) ออกมา และตอนต้นปี ค.ศ. 2009 จีย็อนได้เข้าร่วมโครงการกับซียา (SeeYa) และดาวีชี (Davichi) ปล่อยเพลง "Women's Generation" และเพลง "We were in love" ออกมา
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2009 ทางบริษัท MBK.ent ได้ปรับเปลี่ยนสมาชิกวงด้วยการถอดสมาชิกเดิมอย่างจี-ว็อน และจี-แอ ออกไป ก่อนจะเพิ่มสมาชิกใหม่เข้ามาอีก 3 คนคือ โบรัม, โซ-ย็อน และคิวรี ก่อนจะเริ่มโปรโมทด้วยการปล่อยภาพออกสมาชิกทั้งหมดออกมาในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2009 และหลังจากนั้นไม่นาน ที-อาราได้ปล่อยเพลงเปิดตัวซิงเกิล "Lies" ออกมาในที่สุด

ค.ศ. 2009: เปิดตัว[แก้]

ที-อาราได้ปล่อยทีเซอร์เพลง "Lies" และ "Wanna Play?" ออกมาให้ชมกันในวันที่ 25 กรกฎาคม 2009 และปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง "Lies" ออกมาครั้งแรกในวันที่ 28 กรกฎาคม 2009 ก่อนจะเปิดตัวครั้งแรกในรายการทอล์กโชว์ Radio Star ทางสถานีโทรทัศน์ MBC[5] และวันที่ 29 กรกฎาคม 2009 ที-อาราก็ขึ้นโชว์ครั้งแรกบนรายการ M! Countdown ของช่อง Mnet ด้วยเพลง "Lies" และ "Wanna Play?" อย่างไรก็ตามก็ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตเกี่ยวกับการลิปซิงก์ในการขึ้นเวทีครั้งแรกของพวกเธอ[6] แต่ในที่สุด ที-อาราก็สามารถร้องสดได้ในเวทีต่อ ๆ มา[7]
ในวันที่ 15 กันยายน ค.ศ. 2009 อึนจ็อง, โซย็อน, ฮโยมิน และจีย็อน ได้เข้าร่วมโครงการพิเศษกับศิลปินร่วมสังกัดวงซูเปอร์โนวา (เกาหลี초신성 อังกฤษSupernova) ปล่อยเพลงดิจิทัลซิงเกิล "TTL (Time To Love)" ซึ่งก็ได้รับความนิยมเป็นมาก และต่อมาในเดือนตุลาคม 2009 สมาชิกทั้งหมดจากที-อาราและซูเปอร์โนวารวม 12 คน ได้ปล่อยเพลง "TTL Listen.2" ตามออกมา ซึ่งเดิมทีเพลง "TTL (Time To Love)" มีสมาชิกเพียง 7 คนเท่านั้น
ในวันที่ 1 ธันวาคม ค.ศ. 2009 ที-อาราได้ปล่อยอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกออกมาชื่อ Absolute First Album ซึ่งภายในอัลบั้มนี้มีเพลง "Like the First Time" (เกาหลี"처음처럼") และ "Bo Peep Bo Peep" ถูกนำสร้างมิวสิกวิดีโอให้ชมกัน

ค.ศ. 2010: ความนิยมที่มากยิ่งขึ้น[แก้]

ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2010 ที-อาราได้รับรางวัลอันดับ 1 ank "Music BK-Chart" ครั้งแรกในรายการ KBS2 Music Bank และสองวันหลังจากนั้น ที-อาราก็ได้รางวัลที่ 1 "Mutizen Song" เป็นครั้งแรกจากรายการ SBS Inkigayo ได้สำเร็จ ซึ่งช่วงนั้นเป็นเทศกาลปีใหม่ที-อารายังได้แสดงเพลง "Bo Peep Bo Peep" เวอร์ชันฮันบกให้ได้รับชมกัน ที-อารายังสามารถคว้ารับรางวัล "Music Bank K-Chart" และ "Mutizen Song" จากทั้งสองรายการ ในสัปดาห์ต่อมาอีกด้วย
หลังจากนั้นในเดือนเดียวกัน MBK.ent ได้ออกมาประกาศถึงโครงการกลุ่มพิเศษ "Wonder Woman" ซึ่งเป็นโครงการภาคต่อจากโครงการ "Women's Generation" โดยในครั้งนี้ อึนจ็อง และ ฮโยมิน ได้ไปเข้าร่วมโครงการนี้กับ SeeYa และ Davichi ซึ่งในระหว่างนั้น ที-อาราก็ได้เริ่มโปรโมทเพลง "Like the Begining" ระหว่างนั้นจีย็อนก็เริ่มถ่ายทำละครเรื่อง God of Study (เกาหลี공부의 신) ของสถานี KBS ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมบนเวทีกับสมาชิกอีก 5 คนได้บ่อยครั้ง หลังจากนั้นเพียงไม่นานโซย็อนได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ H1N1 ทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมต่อไปได้[8] และทางต้นสังกัดตัดสินใจยุติการทำกิจกรรมอัลบั้มชุด ที่ 1 ของที-อาราทั้งหมดในเวลาต่อมา
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 ที-อาราได้กลับมาในแนวเซ็กซีในผลงานอัลบั้มรีแพ็คเกจ "Breaking Heart" โดยมีเพลงใหม่ "I Go Crazy Because of You" ซึ่งทำให้ ที-อาราสามารถชนะรายการเพลงได้ถึง 3 ครั้ง คือ Mnet M! Countdown (18 มีนาคม) , SBS Inkigayo Mutizen Song (21 มีนาคม) และ SBS Inkigayo Mutizen Song (28 มีนาคม) ซึ่งเพลง "I Go Crazy Because of You" มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดเป็นลำดับที่ 5 ของปี ค.ศ. 2010 ในช่วงครึ่งปีหลังต้นสังกัดได้ประกาศเพิ่มสมาชิกใหม่ "ฮวาย็อง" เข้ามา และที-อาราประกาศคัมแบ็กอีกครั้งในเดือนธันวาคมด้วยแนวคิดอินเดียนแดงในผลงานมินิอัลบั้ม "Temptastic" โดยมีเพลงใหม่ "Yayaya" แต่ทว่าเพลงรอง "Why Are You Being Like This" ก็เป็นที่ชื่นชอบของแฟนเพลงเหมือนกัน ที-อาราจึงโปรโมทเพลง "Why Are You Being Like This" ในช่วงท้ายโปรโมทก่อนยุติการทำกิจกรรมอัลบั้มชุดนี้
นอกจากนี้ ที-อารายังได้รับรางวัลจากรายการต่าง ๆ มากมาย ทั้งยังมีงานการแสดง งานโฆษณามากมายอีกด้วย และยังได้รับรางวัล Melon Music Award TOP10[9] อีกด้วย ทำให้ ที-อาราได้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นสำหรับแฟนเพลงมากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งความโด่งดังนี้ ทำให้ที-อาราขึ้นเป็นหนึ่งในเกิลกรุ๊ปแถวหน้าของวงการเคป็อป

ค.ศ. 2011: อัลบั้ม John Travolta Wannabe, การบุกตลาดญี่ปุ่น และอัลบั้ม Black Eyes[แก้]

ช่วงมิถุนายน ค.ศ. 2011 ต้นสังกัดได้ประกาศว่า ที-อารา จะกลับมาด้วยเพลง "Roly-Poly" ในวันที่ 1 กรกฎาคม และยังประกาศถึงการบุกตลาดเพลงญี่ปุ่น โดยจัดโชว์เคสในวันที่ 5 กรกฎาคม โดย ที-อาราได้ตกลงเซ็นสัญญาเป็นศิลปินภายใต้การดูแลกับเจ-ร็อก มูลค่าสูงสุดกว่า 350 ล้านเยน (132 ล้านบาท) และบริษัทจัดจำหน่ายของ ที-อารา ที่ญี่ปุ่นคือ EMI MUSIC JAPAN ทั้งนี้ทางต้นสังกัดและ เจ-ร็อก มีแผนให้ที-อารามีส่วนร่วมในละคร รวมทั้งการเป็นพิธีกร, ร้องเพลง, และแสดงภาพยนตร์อีกด้วย
ในวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 จะเป็นโชว์เคสแรกอย่างเป็นทางการของที-อาราในญี่ปุ่น สำหรับโชว์เคสแรกจัดขึ้นที่ Shibuya AX Hall[10]
คิมกวังซู ประธาน MBK.ent และ ที-อารา ร่วมกันเปิดตัวร้านคาเฟ่ ภายใต้แนวคิดสตาร์ช็อป ในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 ณ ถนนสายหลักคังนัม โซล โดยชื่อร้านมีชื่อว่า "Page One" ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากละครเรื่อง Coffee House ที่จบไปแล้ว ซึ่งอึนจ็องได้เคยร่วมแสดง[11]
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 2011 ทาง MBK.ent ได้ประกาศเปลี่ยนตัวตำแหน่งหัวหน้าวงจากโบรัมมาเป็นฮโยมินแทน[12] และออกมินิอัลบั้ม "John Travolta Wannabe" ด้วยแนวคิดยุค 80 ในวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2011 พร้อมกับกลับมาในรายการ M! Countdown ในวันเดียวกัน

ค.ศ. 2012[แก้]


MBK.ent ได้ประกาศวันที่อย่างแน่นอนที่จะปล่อยมินิอัลบั้มของที-อารา ในชื่อว่า "Mirage" พร้อมกับปล่อยเพลงแรก " Sexy Love" ในวันที่ 3 กันยายน ในการกลับมาครั้งนี้ของ ที-อารา ก็ยังคงได้รับการตอบรับจากแฟน ๆ เป็นอย่างดี แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในวง แต่ในการขึ้นแสดงรายการ M count down ยังได้อันดับที่ 1 เป็นเวลา 2 สัปดาห์ติดต่อกัน
ในขณะเดียวกัน ที-อารา เริ่มจัดงานคอนเสิร์ตในประเทศต่าง ๆ ในวันที่ 15 กันยายน จนถึงเดือนพฤศจิกายน ตามตารางงานเริ่มที่ ฮ่องกง,มาเลเซีย,อินโดนีเซีย,จีน และญี่ปุ่น ได้รับการตอบรับกระแสดีจากแฟนคลับ[13]

ค.ศ. 2013: อัลบั้ม AGAIN[แก้]

ช่วงต้นเดือนตุลาคม ต้นสังกัดได้ประกาศว่า ที-อารา จะกลับมาด้วยเพลง "Number nine." ในวันที่ 10 ตุลาคม เป็นการกลับมาอีกครั้งที่ได้รับความสนใจจากแฟน ๆ ชาวจีนมาก โดยทางต้นสังกัดจะร่วมโปรโมททั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างจีน ช่วงปลายเดือนตุลาคม ที-อารา ได้รับรางวัลจาก yinyuetai ในประเทศจีนในการรับรางวัลของมิวสิกวิดีโอที่ได้รับการนิยมมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1
หลังจากที่ปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลง Number Nine แล้ว ทางต้นสังกัดยังปล่อย มิวสิกวิดีโอ "Do you know me?" และช่วงปลายปียังปล่อยมิวสิกวิดีโอ "Hide & Seek." อีกด้วย

ค.ศ. 2014: อัลบั้ม And&End, การบุกตลาดจีน[แก้]

หลังจากที-อารา ประสบความสำเร็จของอัลบั้ม AGAIN ในจีนที่ปล่อยซิงเกิล "NUMBER NINE" ซึ่งมียอดการเข้าชมมากกว่า 100 ล้านวิว ภายในเวลา 4 เดือน ช่วงต้นเดือนกันยายน 2014 ต้นสังกัด MBK.ent ได้ประกาศว่า ที-อารา จะกลับมาด้วยเพลง "Sugar Free" ในวันที่ 10 กันยายน และยังประกาศถึงการบุกตลาดเพลงจีน โดยวันที่ 25 กันยายน ต้นสังกัด T-ara MBK.ent และต้นสังกัดบันเทิงในประเทศจีน Longzhen Culture Development ได้จัดงานเซ็นสัญญาขึ้น มูลค่ามากกว่า 5 พันล้านวอน (4.16 ล้านดอลลาสหรัฐ) โดยมีการคาดการว่าจะสามารถสร้างรายได้ 16.5 พันล้านวอนต่อปี [14]
ในวันที่ 13 ตุลาคม จะเป็นงานโชว์เคสแรกอย่างเป็นทางการของ ที-อารา ในประเทศจีน สำหรับงานจัดขึ้นที่ โรงแรมในกรุงปักกิ่ง ซึ่ง ที-อารา จะเริ่มมีการโปรโมทเป็นทางการในประเทศจีนนับจากนั้น มีทั้งการเข้าร่วมรายการชื่อดังในประเทศจีน การรับทำโฆษณา งานละคร งานคอนเสิร์ตและงานอื่น ๆ อีกมากมาย[15] รวมทั้งได้คัฟเวอร์เพลง "Little Apple" ซึ่งฉบับดั้งเดิมเป็นเพลงภาษาจีนกลางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจีนของวงชอปสติกบราเธอส์ เป็นเวอร์ชันภาษาเกาหลีกับจีนกลางในท่อนฮุก โดยมีชอปสติกบราเธอส์ร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอด้วย[16] โดยในมิวสิกวิดีโอ ที-อารา ได้เปลี่ยนโฉมตัวเองด้วยการสวมชุดวอร์มสีเหลืองสดใสพร้อมกับแต่งหน้า ทำผมแปลก ๆ เป็นแบบตลก แม้จะถูกมองว่าเลียนแบบคอนเซปต์ของเครยอนป๊อปก็ตาม[17]

ค.ศ. 2015: อัลบั้ม So Good[แก้]

ในวันที่ 4 สิงหาคม ที-อารากลับมาอีกครั้งกับอัลบั้ม So Good และมิวสิกวิดีโอในเพลงชื่อSo Crazy ซึ่งทางต้นสังกัดกล่าวว่าเป็นการวัดกระแสว่าเรื่องราวอื้อฉาวที่เกี่ยวกับฮวาย็องและสมาชิกคนอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน ยังส่งผลต่อความนิยมของวงอยู่หรือไม่[18]

ค.ศ. 2016: มินิอัลบั้ม REMEMBER[แก้]

หลังจากที่หายไปกว่า 1 ปี 3 เดือน ล่าสุด วันที่ 4 พฤศจิกายน ค่าย MBK Ent. ได้ปล่อยคลิปทีเซอร์แรกของที-อาราสำหรับการกลับมาด้วยเพลงโปรโมท "TIAMO" ถูกปล่อยออกมาทางเว็บไซต์เพลงต่าง ๆ และในเวลาใกล้เคียงกันก็ได้ปล่อยคลิปเบื้องหลังการถ่ายทำมิวสิกวิดีโอออกมาด้วยเช่นกันโดยสาว ๆ จะกลับมาด้วยมินิอัลบั้มชุดที่ 12 REMEMBER โดยเพลงโปรโมท "TIAMO" จะเป็นเพลงจังหวะกลาง ๆ ทั้งทำนองและเนื้อเพลงจะให้ความรู้สึกอบอุ่นและน่ารัก ซึ่งสมาชิกที-อาราก็ได้บอกว่า ตั้งใจทำเพลงนี้ให้กับแฟนคลับทุกคนที่ยังยืนหยัดอยู่ข้าง ๆ ที-อารามาจนถึงทุกวันนี้
มินิอัลบั้มชุดที่ 12 REMEMBER นี้ จะประกอบไปด้วย
1. TIAMO (띠아모)
2. 이별 영화 (Farewell Movie)
3. 오늘까지만 아파할 거야 (It will only hurt until today/Prism)
4. TIAMO (Chinese Ver.) ฉบับภาษาจีน
5. TIAMO (Inst) เป็นบีตของเพลง Tiamo

ค.ศ. 2017: มินิอัลบั้ม WHAT'S MY NAME, โซย็อน โบรัม ยุติโปรโมตกับวง, โปรโมตในฐานะสมาชิก 4 คน[แก้]

สมาชิกที่ต่อสัญญาใหม่จนไปถึง เดือนธันวาคม ปี ค.ศ. 2017 คือ คิวรี อึนจ็อง ฮโยมิน จีย็อน ส่วน โซย็อน โบรัม ไม่ต่อสัญญาใหม่ สัญญาของทั้ง 2 สมาชิกจะหมดลงวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2017
ในวันที่ 7 พฤษภาคม รายงานจากสื่อว่าสมาชิก 6 คน ได้ถูกเลื่อนคัมแบคของพวกเธอตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนมาถึงเดือนมิถุนายนและด้วยสัญญาของโซย็อนและโบรัม จะสิ้นสุดในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ จากการพูดคุย การโปรโมทในฐานะกลุ่มครบวงก็ได้มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งคู่จะไม่ร่วมโปรโมทอัลบั้มสุดท้ายของที-อารานี้ เหลือเพียงคิวรี, อึนจ็อง, ฮโยมิน และ จีย็อน จะมีการบันทึกเสียงกันใหม่สำหรับอัลบั้มของพวกเธอด้วยสมาชิกเพียง 4 คน ด้วยเหตุนี้การคัมแบคของพวกเธอจึงต้องล่าช้ากว่าเดิม MBK Entertainment กล่าวว่า "ในขณะที่รายละเอียดการคัมแบ็กครั้งนี้ เราไม่สามารถตกลงกันได้กับโบรัมและโซย็อนที่พวกเธอจะเข้าร่วมในอัลบั้มนี้ กิจกรรมของที-อาราของทั้ง 6 คน จะสิ้นสุดลงเมื่อสัญญาของโบรัมและโซย็อน หมดลง เราเสียใจจริง ๆ ที่ต้องนำข่าวร้ายมาสู่แฟน ๆ ที่ได้เชียร์ที-อารามาเป็นระยะเวลา 9 ปี ตอนนี้ ที-อาราจะทำการโปรโมทสมาชิก 4 คน แม้ว่าพวกเธอจะไม่สามารถมาร่วมงานกับเราได้ แต่หวังว่าอนาคตของโบรัมและโซย็อนจะมีอนาคตที่สดใสหลังจากที่ได้อยู่กับเราตลอด 9 ปี"
วันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 2017 T-ara ชนะรายการเพลง THE SHOW ในรอบ 5 ปี หลังจากเกิดเรื่องขัดแย้งในวง

ปี ค.ศ. 2018: ที-อาราไม่ต่อสัญญากับเอ็มบีเค จะไม่ยุบวงและจะพักกิจกรรมทำงานเดี่ยว[แก้]

เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2018 ฮโยมินได้ประกาศผ่านบัญชีอินสตราแกรมของเธอเพื่อว่าตัวเธอเอง จียอน อึนจองและ คิวรี ตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญากับ MBK และออกจากบริษัท หลังจากนั้นได้มีการยืนยันจากบริษัท MBK ออกมาชี้แจงว่าวงได้สิ้นสุดสัญญาของบริษัทไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้ระบุว่าที-อารานั้นได้แยกวงหรือไม่

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ทีอาร่า
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ทีอาร่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น